Read in English / 阅读语言 
English 
简体中文
Musée d’Orsay ใช้ NFT เจาะตลาดใหม่
พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ชื่อดังของฝรั่งเศส Musée d’Orsay จับมือกับ Tezos Foundation เตรียมใช้ NFT (Non-Fungible Token) และ Blockchain นำร่องสร้างสารพัดกิจกรรรมในโลกศิลปะไปจนตลอดจนถึงปีหน้า โดยเริ่มพรุ่งนี้งานแรก ในนิทรรศการรวบรวมผลงานของแวนโก๊ะในช่วงสองเดือนสุดท้ายของชีวิต “Van Gogh in Auvers-sur-Oise The Final Months” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม 2023 – 4 กุมภาพันธ์ 2024
นิทรรศการนี้จะเปิดตัวศิลปะ NFT สร้างอิงมาจากผลงานของแวนโก๊ะในนิทรรศการ จำนวน 2 แบบ โดยชิ้นหนึ่งเป็น NFT ที่ใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ท่ีจะเป็นภาพจานผสมสีของแวนโก๊ะ และ อีกชิ้นจะเป็นศิลปะ Digital เป็นภาพของ Musée d’Orsay ในลักษณะภาพ The Starry Night อันโด่งดังของ Van Gogh โดยฝีมือของกลุ่ม KERU (ดูจากลายเส้นแล้วคิดว่าน่าจะใช้ AI เข้ามาช่วยด้วยเทคนิคการทำ Style Transfer)
NFT แต่ละแบบจะถูก Mint บนเครือข่าย Tezos (XYZ) จำนวนแบบละ 2,300 ชิ้น เปิดขายในราคาชิ้นละ 20 ยูโร หรือ ประมาณ 735 บาท โดยผู้ที่ถือ NFT สามารถร่วมสนุกเล่นเกมชิงรางวัลไม่ว่าจะเป็น บัตรเข้า Musée d’Orsay ฟรีตลอดชีพ หรือ บัตรเข้าร่วมงานกาล่าเปิดตัวของทางมิวเซียมอีกด้วย
สร้างกลยุทธสู้ Covid
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของความร่วมมือครั้งนี้เท่านั้น โดยจุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ Covid ที่ทำให้ผู้ชมนั้นหายไป จวบจนวันนี้ทาง Orsay มองว่าจำนวนคนยังไม่กลับมาเท่าที่ควร และ ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
Guillaume Roux ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ Orsay ให้สัมภาษณ์กับ Decrypt ว่า “ทั้งคนฝรั่งเศส รวมไปถึงวัยรุ่นก็มาที่นี่น้อยลง เราต้องคิดแผนเอาผู้ชมของเราที่หายไป(ระหว่างช่วง Covid) กลับมาให้ได้”
ประจวบเหมาะกับช่วงเดือนตุลาคม 2021 ทาง Orsay ได้ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์คนใหม่ Christophe Leribault ซึ่งมีเป้าหมายอยากจะให้คนหมู่มากเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น เขาเลยสั่งให้ทีมงานไปศึกษาเรื่องราวของ NFT และ Blockchain และดูว่าจะใช้ประโยชน์อะไรจากเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อดึงดูดคนกลุ่มใหม่ๆและวัยรุ่นให้เข้ามาเยี่ยมชมที่ Orsay มากขึ้น
ศิลปะ NFT และ ตัวตนแห่งอนาคตของพิพิธภัณฑ์
นอกจากนิทรรศการแวนโก๊ะที่กำลังจะเปิดแล้ว ทาง Orsay และ Tezos Foundation เตรียมกิจกรรมเอาไว้มากมายตลอดทั้งปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการซีรีย์การสัมมนา และ โครงการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ในโลกศิลปะ ทั้ง Blockchain และ NFT และ อื่นๆ รวมไปถึงการเชิญศิลปินสายดิจิทัลที่โลดแล่นในโลกศิลปะ Crypto ให้มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน NFT โดยใช้แรงบันดาลใจจากผลงานของ Orsay
Roux ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
“วันนี้ เราไม่ต้องมาตั้งคำถามเกี่ยวกับจำนวนคนที่จะมาชมพิพิธภัณฑ์กันหรอก สิ่งที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือ การเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตระหนักถึงสภาพการณ์ในปัจจุบัน การเป็นพิพิธภัณฑ์ที่พูดคุยกับคนรุ่นใหม่ๆ ถ้าเราไม่เริ่มที่จะพูดคุยให้แตกต่างออกไป นำเสนอตัวเองให้ต่างออกไป เราจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าๆจากศตวรรษเก่าๆ …. อย่างรวดเร็ว…และเร็วมากๆ”
Musée d’Orsay ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ณ กรุง Paris ประเทศฝรั่งเศส เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้ชมเข้ามาที่สุดอันดับของโลกในปี 2022 ที่จำนวน 3.2 ล้านคน และเป็นอันดับสองในฝรั่งเศสรองจากพิพิธภัณฑ์ Louvre เท่านั้น
ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ทาง Art Science Museum ของสิงค์โปรก็เพิ่งเปิดตัวนิทรรศการศิลปะที่จัดเต็มไปด้วย NFT เช่นกัน
