Bacha Coffee รีวิว
วันนี้ได้มีโอกาสลองไปกินร้าน ร้านบาชา คอฟฟี่ (Bacha Coffee) ซึ่งส่วนตัวเห็นหลายสาขาในหลายประเทศก็มีผู้คนแวะเวียนกันเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย ทั้งๆ ที่เคยได้ข่าวว่าเมล็ดกาแฟที่นี่มีแบบแพงขายกันเป็นหมื่น และถ้าสั่งเป็นแก้วชงมาให้พร้อมทานได้เลยราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 4 พันบาท
ด้วยการตกแต่งร้านที่สวยงามราวกับเป็นร้านบูติคในราชวัง (ซึ่งมีที่มา) และกลิ่นกาแฟที่หอมแบบสุดๆ รู้ตัวอีกทีผมก็เดินเข้าไปในร้านแล้ว
Coffee Master ในชุดสูทสีขาว ต้อนรับอย่างดีพร้อมกับสอบถามรูปแบบ (Profile) กาแฟที่เราชอบ ใครสายขม สายเปรี้ยว สายผลไม้ ชอบแบบไหนก็บอกเขาไป เขาก็จะแนะนำให้
Bacha Coffee ราคา
หลังจากที่ได้คำแนะนำมาสามสี่แบบ ผมเริ่มสำรวจราคาของสาขานี้ โดยเริ่มต้นที่ 88 MOP หรือประมาณ 360 บาท และไล่ระดับราคาไปถึง 328 MOP หรือประมาณ 1,345 บาท และกาแฟที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุดคือ Paraiso Gold Coffee ซึ่งขายแก้วละ 988 MOP หรือประมาณ 4,050 บาท
ร้านบาชา คอฟฟี่ เป็นแบรนด์กาแฟพรีเมี่ยมเฉพาะทาง (Specialty Coffee) ที่มีต้นกำเนิดในเมืองมาราเกช ประเทศโมร็อกโก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 โดยตั้งอยู่ในพระราชวัง Dar el Bacha ทำให้ตัวร้านในปัจจุบันออกแบบสะท้อนความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบ Morocco และในบางสาขามีการใช้ประตูโค้งแบบศิลปะมัวร์ (Moorish Art)
โดยตัวบูติคของร้านนั้นใช้โทนสีทอง–ส้ม–น้ำเงินเข้มเป็นหลักให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพระราชวัง แถมใช้พื้นกระเบื้องลายขาวดำสร้างความคมชัดและสมดุล ส่วนผนังและเพดานตกแต่งด้วยลวดลายเรขาคณิต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของลวดลายแบบศิลปะอิสลาม (Islamic Art)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พระราชวัง Dar el Bacha ได้ปิดตัวลง และหลังจากนั้น 60 ปีก็ได้บูรณะกลับมาใหม่ในชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ชุมชน (Museum of Confluence) โดยปัจจุบันร้านกาแฟบาชาบริหารงานโดยกลุ่ม V3 Gourmet บริษัทโฮลดิ้งสัญชาติสิงคโปร์ (เป็นเจ้าของเดียวกับแบรนด์ชาหรู TWG Tea) ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐี Ron Sim โดยในปีค.ศ.2019 ได้เริ่มรีแบรนด์เปิดตัวอีกครั้ง เริ่มจากร้านแฟล็กชิปสโตร์ระดับนานาชาติในสิงคโปร์ ก่อนจะขยายสาขาไปทั่วโลกทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป กาแฟบาชามีจุดเด่นที่มีกาแฟอาราบิก้า 100% ให้เลือกมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งเมล็ดกาแฟคัดสรรมาจากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก
Bacha Coffee อร่อยไหม?
ตัดภาพมาที่มาเก๊า ผมสั่งกาแฟร้อนมาสองแก้ว ได้แก่ San Cristóbal จากประเทศเอกวาดอร์ ตัวนี้เป็นแบบ Single Origin ซึ่งหมายความว่าเมล็ดกาแฟนั้นจะใช้จากแหล่งเดียวไม่ปนกับแหล่งอื่น (ถ้าปนกันจะเป็นแบบ Blended) เพื่อความคงเสถียรของรสชาติและสัมผัสของกาแฟ ราคา 88 MOP หรือประมาณ 360 บาท และ Blue Mountain Mist ราคา 118 MOP หรือประมาณ 478 บาท ตัวนี้เป็น Fine Blended
สาขานี้ไม่มีแบบทานที่ร้านจริงจัง แต่มี Takeaway ซึ่งมีโซนให้นั่ง ดังนั้นแก้วที่ให้มาจะเป็นแก้วกระดาษในกล่องที่สวยงามทีเดียว ตัวแก้วที่เป็นสีน้ำเงินมีลวดลายแบบ ลายอาระเบสก์ (Arabesque Pattern) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะอิสลาม ลายเส้นโค้งต่อเนื่องที่พันเกี่ยวกันแบบสมมาตรสื่อถึงความเป็นอนันต์ของพระผู้เป็นเจ้า
โดยในกล่องนี้จะมีวิปครีมสดกับแท่งน้ำตาลมาให้
ผมชิมกาแฟทั้งสองแบบและประทับใจในรสชาติไม่น้อย โดยเฉพาะตัว San Cristóbal รสชาติสมเป็น Single Origin ซึ่งเป็นรสชาติที่ผมไม่ได้เคยได้สัมผัสจากที่ไหนมาก่อน และกลิ่นหอมมีหลายชั้น (Layer) มากๆ ส่วนตัว Blue Mountain Mist ก็หอมละมุน นุ่มมาก ความเปรี้ยวและขมกำลังพอดีสำหรับผม สำหรับส่วนวิปครีมก็เข้มข้น ผมเอาแท่งน้ำตาลจิ้มกินเป็นขนมเลย (อยากให้ลอง อร่อยไม่น้อย)
สาขาที่ผมมาทานคือที่ Studio City มาเก๊า ซึ่งมีที่ให้นั่งต่างจากที่ Venetian ที่มีแต่ส่วนขายของซื้อกลับบ้าน ซึ่งปัจจุบันทราบมาว่าตอนนี้กาแฟบาชากำลังเปิดสาขาไปทั่ว อย่างที่ถนนช็องเซลีเซที่ฝรั่งเศสก็เพิ่งเปิดไปกลางปีนี้เอง และได้ข่าวมาว่ากำลังจะมาเปิดในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ต้องรอชมต่อไปว่าราคาจะเป็นอย่างไร (ผมคาดว่าราคาน่าจะพอๆ กับที่สิงคโปร์ซึ่งถูกกว่ามาเก๊า) และขอบคุณทุกท่านที่อ่าน Bacha Coffee รีวิว มาจนถึงจุดนี้ เพราะศิลปะนั้นอยู่รวมตัวในทุกๆการเดิน ติดตามเนื้อหาจากซีรีย์ Art Tourism ท่องเที่ยวศิลปะไปกับเต้ Art Man ได้อีกในครั้งหน้า ติดตามได้ที่เต้ Art Man ทุกช่องทาง
Bacha Coffee สาขาในมาเก๊า
สาขา Shoppes at Venetian:
Shop K15, Level 1, Shoppes at Venetian, Macau
- เปิด 10.00-21.00
สาขา Studio City:
Level 1, Studio City, Macau
- เปิด 9.00-10.00
เรื่อง เต้ Art Man
ภาพ Tooh Athit / เต้ Art Man
