เช้านี้นั่งกินขนมปังเผือกกับชาพู่เออร์ พลางนึกถึงข่าวใหญ่ที่สุดในแวดวงตลาดศิลปะในเอเชียตอนนี้ ก็คือการประกาศหยุดจัดงาน Taipei Dangdai ในปี 2026 โดยให้เหตุผลว่าจะขอหยุดเพื่อทบทวนตัวเอง (ทางยุทธศาสตร์)
Taipei Dangdai ถือเป็นอีก Art Fair สำคัญของไต้หวัน เริ่มจัดขึ้นเมื่อปี 2019 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดของ Art Fair ในไต้หวัน โดยจะเน้น Gallery ศิลปะร่วมสมัยจากต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งเดิมทีเจ้าตลาดอย่างงาน Art Taipei จัดโดยสมาคมแกลเลอรีศิลปะไต้หวัน (Taiwan Art Gallery Association หรือ TAGA) จะเน้นไปที่แกลเลอรีของไต้หวันและประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย โดย Art Taipei ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมปีนี้ ก็นับเป็นครั้งที่ 32 แล้ว
ถ้าในแง่จำนวนผู้เข้าชมงานของ Taipei Dangdai หากย้อนหลังไป 3 ปีล่าสุด ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 35,000 คน แต่ปีล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 31,511 คน พร้อมด้วยจำนวน Gallery แสดงงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือ 53 แห่งในปีล่าสุด การประกาศหยุดจัดงานในปี 2026 ท่ามกลางจำนวนตัวเลขผู้เข้าชมงาน และ ผู้แสดงงานที่ลดลงเรื่อยๆ สะท้อนถึงความน่าเป็นห่วง และ การจัดงานนี้ต่อไปในอนาคต
ที่น่าสนใจก็คือผู้จัดที่อยู่เบื้องหลังงาน Taipei Dangdai นี้คือบริษัท Art Assembly ผู้จัดงาน Art Fair ในหลายประเทศ รวมถึงงาน ART SG ซึ่งปัจจุบันก็กำลังเผชิญปัญหารุมเร้ามากมายคล้ายๆกัน โดยเฉพาะเรื่องจำนวน Gallery / Exhibitor ผู้มาแสดงงานที่ลดลง จำนวนผู้เข้าชมงานของปีนี้นั้น ปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่
แต่อย่างไรก็ดี งาน ART SG ก็ยังยืนหยัดประกาศจัดงานครั้งต่อไปในปีหน้า ระหว่างวันที่ 23–25 มกราคม 2026 โดยยังไม่ได้ประกาศ “หยุดทบทวนตัวเอง” เฉกเช่นงาน Taipei Dangdai
“การหยุด” ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไต้หวัน ที่สหรัฐอเมริกาเอง งาน Art Fair เก่าแก่อย่าง ADAA The Art Show ที่นิวยอร์ก ซึ่งปีนี้เป็นครั้งที่ 37 และกำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่อาทิตย์แล้วในวันที่ 28 ตุลาคมที่กำลังจะมาถึงนี้ ได้ประกาศหยุดจัดงานกระทันหัน และบอกว่าจะกลับมาจัดใหม่ในปีหน้า โดยให้เหตุผลว่า “ขอหยุดเพื่อทบทวนตัวเอง (ทางยุทธศาสตร์)” เหตุผลเดียวกับ Taipei Dangdai (มันช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้)
ไม่ว่าเหตุผล “ที่แท้จริง” ของการหยุดจัดงานจะเป็นเช่นไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ววันนี้คือการส่งสัญญาณเตือนสีแดง หรือ Red Alert ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับงานเหล่านี้ (คงไม่มีใครอยากหยุดจัดงาน หากปีหน้ามีกำไรแบบ New High หรือ ยอด Gallery ร่วมงานทะลุเป้า) ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้มันกระทบกับความน่าเชื่อถือของการจัดงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การยืนระยะและการยืนหยัดอย่างยั่งยืนในโลกศิลปะจึงเป็นประเด็นที่ต้องคำนึงถึงอย่างเร่งด่วน มิฉะนั้นเราอาจจะได้เห็นงานอื่นๆ ในโลกศิลปะออกมาทยอยประกาศอีกว่า “ขอหยุดเพื่อทบทวนตัวเอง (ทางยุทธศาสตร์)”
ซึ่งผมไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้เลยจริงๆ
Happy Sunday
เต้ Art Man
17.08.2025
