ทาคาชิ มุราคามิ เปลี่ยนพิพิธภัณฑ์เป็นห้องรำลึกบาดแผลทางประวัติศาสตร์

Read in English / 阅读语言 English

ทาคาชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) กับนิทรรศการเดี่ยวล่าสุด นิทรรศการ “Stepping on the Tail of a Rainbow”  ที่เปลี่ยนโฉมพิพิธภัณฑ์ศิลปะคลีฟแลนด์ (Cleveland Museum of Art) ให้กลายเป็นพื้นที่สะท้อนถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกและญี่ปุ่น ผ่านผลงานศิลปะของมุราคามิที่ผสมผสานความงามของวัฒนธรรมป๊อปและงานฝีมือแบบดั้งเดิม

ห้องใฝ่ฝันจากวัดโบราณ ไฮไลท์ของนิทรรศการนี้

จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของนิทรรศการนี้ ยูเมโดโนะ (Yumedono) หรือ “ห้องใฝ่ฝัน” ที่สร้างจากแบบเดิมของวัดโฮริวจิโบราณในจังหวัดนารา ซึ่งเป็นโครงสร้างรูปแปดเหลี่ยมซึ่งเชื่อว่าตั้งอยู่บนพื้นดินศักดิ์สิทธิ์เดียวกับที่เจ้าชายโชโตกุไทชิเคยเปลี่ยนใจจักรพรรดิโยเมอิผู้เป็นพ่อให้เข้านับถือพุทธศาสนาในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 โดยทำหน้าที่เป็นทั้งประตูสู่และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

ภายในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ จะมีผลงานจิตรกรรมชุดใหม่สี่ชิ้นที่สร้างขึ้นระหว่างปี 2023 ถึง 2025 โดยอิงแนวคิดของผู้พิทักษ์ตามจักรวาลวิทยาจีนโบราณ ได้แก่ Blue Dragon Kyoto, Vermillion Bird Kyoto, White Tiger Kyoto และ Black Tortoise Kyoto ผ่านวิสัยทัศน์ร่วมสมัยของมุราคามิต่ออดีตเมืองหลวงจักรวรรดิของญี่ปุ่น 

ศิลปะในฐานะการตอบสนองต่อบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์

นิทรรศการนี้ได้ชื่อจากผลงานจิตรกรรมขนาดใหญ่ปี 2014 ของมุราคามิ เรื่อง “In the Land of the Dead, Stepping on the Tail of a Rainbow” ผืนผ้าใบยาว 82 ฟุตที่สื่อถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิโทโฮคุในปี 2011 และภาวะอุบัติเหตุนิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่เกิดตามมา 

ในนิทรรศการนี้ มุราคามิได้แบ่งนิทรรศการออกเป็น 3 ช่วงตามประวัติศาสตร์ โดยเริ่มจาก การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อด้วย ภัยพิบัติธรรมชาติและนิวเคลียร์ปี 2011 และการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก แต่แทนที่จะจมอยู่ในความสิ้นหวัง ผลงานเหล่านี้สำรวจว่าชุมชนตอบสนองต่อวิกฤตผ่านความคิดสร้างสรรค์ และความหลงใหลร่วมสมัยในประเด็นต่างๆไม่ว่าจะเป็น Metaverse, การเล่นเกมและการ์ดสะสม รวมไปถึงสตรีทแฟชั่น

“ศิลปะของมุราคามิขุดคุ้ยประวัติศาสตร์โลกเพื่อสร้างจินตนาการใหม่ต่อช่วงเวลาปัจจุบัน” เอมิลี่ ลีเบิร์ต (Emily Liebert) ภัณฑารักษ์ศิลปะร่วมสมัยของพิพิธภัณฑ์ศิลปะคลีฟแลนด์ อธิบาย “ผู้เยี่ยมชมจะได้พบกับทาคาชิ มุราคามิที่พวกเขารู้จักและรัก ด้วยการเน้นวัฒนธรรมป๊อปและการออกแบบที่มีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันเชื่อมโยงผลงานนั้นกับประวัติศาสตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจจากคอลเลกชันถาวรอันครอบคลุมของพิพิธภัณฑ์”

การผสาน แทรกแซง และก่อกวน ด้วยผลงานดิจิทัล

ด้วยนิสัยของมุราคามิที่ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ การมาจัดแสดงครั้งนี้เขาได้ได้สร้างผลงานศิลปะดิจิทัลใหม่สี่ชิ้น เพื่อสร้างบทสนทนา และ ร้อยเรื่องราวไปกับผลงานศิลปะในคอลเลกชันถาวรของพิพิธภัณฑ์คลีฟแลนด์ โดยเริ่มจากใช้ซอฟต์แวร์ดิจิทัลเพื่อแยกองค์ประกอบและสร้างผลงานขึ้นมาใหม่ มุราคามิได้สร้างผลงานที่ดูเหมือนเป็นต้นฉบับจากระยะไกล แต่เผยให้เห็นความแตกต่างที่เจตนาเมื่อมองอย่างใกล้ชิด ผลงานเหล่านี้จะถูกติดตั้งทั่วห้องแสดงของพิพิธภัณฑ์ควบคู่กับแรงบันดาลใจดั้งเดิม ชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามกับสมมติฐานของพวกเขาเกี่ยวกับความถูกต้องและการตีความทางศิลปะ

ภาพพิมพ์รูปของคุณ โดยมุราคมิ

นิทรรศการครั้งนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษ โดยมุราคามิจะสร้างภาพพิมพ์เฉพาะให้สำหรับคุณพร้อมลงลายเซ็นให้ด้วยในราคาประมาณ 166,062 บาทต่อชิ้น มีให้เลือก 3 แบบ จำกัดแบบละ 50 ภาพ รายได้ทั้งหมดจากผลงานจำกัดเหล่านี้สนับสนุนการสร้างยูเมโดโนะของนิทรรศการไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์

นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชม 50,000 คนแรกจะได้รับการ์ดเทรดดิ้งมุราคามิรุ่นคลีฟแลนด์พิเศษที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการจัดแสดงนี้ พิพิธภัณฑ์ยังได้ร่วมมือกับศิลปินเพื่อเสนอภาพพิมพ์รุ่นจำกัดซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะในช่วงการจัดแสดงเท่านั้น

นิทรรศการ “Stepping on the Tail of a Rainbow”  การเยี่ยมชม

นิทรรศการ: Takashi Murakami: Stepping on the Tail of a Rainbow เปิดให้ชมแล้วตั้งแต่วันนี้ – 7 กันยายน 2025 ที่ Cleveland Museum of Art ค่าเข้าชมประมาณ ผู้ใหญ่ 1,050 บาท, ผู้สูงอายุ (65+) 980 บาท, นักเรียน/เด็ก (6-17) 525 บาท, สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ clevelandart.org

เรื่อง เต้ Art Man