Read in English / 阅读语言 
English 
简体中文
ชื่อผลงาน: Sorrowing Old Man (At Eternity’s Gate)
ศิลปิน: วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh)
ปีที่สร้างเสร็จ: May 1890
สถานที่แสดงงาน: Kröller-Müller Museum
เทคนิค: สีน้ำมันบนผ้าใบ
ขนาด: 80 ซม × 64 ซม
ในโลกของศิลปะ มีผลงานบางชิ้นที่สามารถสื่อสารความเจ็บปวดของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งจนกลายเป็นความงามอันเป็นนิรันดร์ ภาพวาด “Sorrowing Old Man (At Eternity’s Gate)” ของ วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh) คือหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซดังกล่าว ที่แม้จะถ่ายทอดความหดหู่ แต่กลับสะท้อนถึงความลึกซึ้งของจิตวิญญาณมนุษย์ได้อย่างน่าประทับใจ วันนี้ เต้ Art Man ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับภาพนี้กันครับ
ผลงานที่แวนโก๊ะวาดก่อนตายแค่ 2 เดือนเท่านั้น
ภาพวาดสีน้ำมันขนาด 81 x 65 เซนติเมตรชิ้นนี้ ถือเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญที่แวนโก๊ะสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขาได้วาดภาพนี้เพียงสองเดือนก่อนที่จะเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1890 เพียงแค่สองเดือน ขณะที่เขากำลังรับการรักษาที่สถานบำบัด Saint Paul-de-Mausole ในเมือง Saint-Rémy-de-Provence ประเทศฝรั่งเศส
ช่วงเวลานั้นแวนโก๊ะกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรง หลังจากประสบกับความผิดหวังและความเศร้าโศกหลายครั้ง โดยเฉพาะหลังจากที่เพื่อนศิลปินอย่างปอล โกแกง (Paul Gauguin) จากเขาไปเมื่อสองปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เขาใช้มีดโกนตัดหูตนเอง
แรงบันดาลใจจากภาพทหารเกษียณผู้โดดเดี่ยว
แม้ภาพนี้จะดูเหมือนเป็นการถ่ายทอดความเจ็บปวดส่วนตัวของแวนโก๊ะ แต่ที่จริงแล้วแรงบันดาลใจหลักมาจากภาพวาด “Sunday at Chelsea Hospital” ของศิลปินชาวอังกฤษ เซอร์ ฮิวเบิร์ต ฟอน เฮอร์โคเมอร์ (Sir Hubert von Herkomer) ที่เขาได้เห็นเมื่อแปดปีก่อนหน้า
ภาพของเฮอร์โคเมอร์แสดงให้เห็นถึงความหดหู่ของทหารผ่านศึกที่เกษียณแล้วกำลังนั่งรอที่โรงพยาบาลในวันอาทิตย์ ความน่าสนใจคือท่าทางของบรรดาทหารเกษียณเหล่านั้นดูเศร้าโศกและหมดหวังจนคนรอบข้างต้องตรวจชีพจรเพื่อดูว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
แวนโก๊ะประทับใจในการแสดงออกถึงความทุกข์ระทมของมนุษย์ในลักษณะนี้อย่างมาก เขาจึงได้ศึกษาและพัฒนาท่าทางดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นหนึ่งในลายเซ็นที่โดดเด่นของผลงานของเขา
จากภาพร่างสู่ผลงานอมตะ
ภาพวาดสีน้ำมันชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นจากภาพร่างดินสอที่แวนโก๊ะเคยวาดไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 ขณะที่เขาอาศัยอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ภาพร่างต้นฉบับนั้นปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) ในอัมสเตอร์ดัมนอกจากนี้เขายังได้สร้างผลงานในรูปแบบภาพพิมพ์หิน (Lithograph) และงานวาดเส้นในท่าทางคล้ายกันอีกหลายชิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าท่าทางของชายชราที่กอดหัวด้วยมือนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับแวนโก๊ะ
ท่าทางของตัวละครที่ใช้มือปิดหน้าและแสดงความเศร้าโศกนี้ปรากฏในผลงานของแวนโก๊ะหลายชิ้น จึงถือได้ว่าเป็น “Signature Pose” หรือท่าทางเอกลักษณ์ของเขาอย่างแท้จริง ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจอย่างลึกซึ้งที่เขามีต่อการแสดงออกถึงความทรมานและความเหงาของจิตวิญญาณมนุษย์
ภาพวาดที่เปลี่ยนความเศร้าให้เป็นศิลปะ
“Sorrowing Old Man (At Eternity’s Gate)” ไม่เพียงแค่เป็นการบันทึกความเจ็บปวดของแวนโก๊ะในช่วงชีวิตสุดท้าย แต่ยังเป็นการยกระดับความทุกข์ระทมของมนุษย์ให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่สื่อสารได้อย่างสากล ผ่านการใช้สีและเทคนิคการวาดที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ภาพนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่แสดงถึงความสามารถของศิลปะในการแปรเปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นความงามอันเป็นนิรันดร์
เรื่อง เต้ Art Man
